5เมืองน่าเที่ยวอินเจแปน

1.เกียวโต (Kyoto/京都)

Cr: getsready.com

 เกียวโต (Kyoto/京都) อดีตเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นจึงการันตีความน่าสนใจในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม และบอกเล่าประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น โดย สมบัติของชาติ ราว 20% และ สมบัติสำคัญทางวัฒนธรรม ราว 14% ของญี่ปุ่นนั้นอยู่ในเมืองนี้ ในปี ค.ศ. 1994 ยูเนสโก ได้ให้การรับรองกลุ่มมรดกโลกในนครเกียวโต ในนามของ อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์เกี่ยวโตโบราณ (เมืองเกียวโต, อุจิ และ โอะสึ) 17 สถานที่ เช่น ศาลเจ้าคะมิงะโมะ (上賀茂神社), ปราสาทนิโจ (二条城) เป็นต้น นอกจากนี้ยังงดความด้วยธรรมชาติที่มีเสน่ห์หลากหลายตามฤดูกาล พร้อมกิจกรรมน่าสนุกมากมาย เช่น ปั่นจักรยานชมเมือง ร่วมพิธีชงชา แต่งกายในชุดโบราณชมเมือง ลิ้มรสอาหารและขนมแบบดั้งเดิม เป็นต้น

2.โอซาก้า (Osaka/大阪)

Cr: twitter.com

ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจอันดับที่สองของญี่ปุ่น การันตีความคึกคักน่าท่องเที่ยวของ โอซาก้า (Osaka/大阪) เมืองเอกแห่งภูมิภาคคันไซ เป้าหมายการท่อ เที่ยวจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก เป็นนครที่รู้จักกันดีว่าเป็นเมืองแห่ง “อาหารการกิน” เป็นต้นกำเนิดอาหารโปรดของหลายคนอย่างทาโกะยากิ เป็นสวรรค์ของคนรักของอร่อย มีสตรีทฟู๊ดน่ากินมากมาย นอกจากนี้ยังเด่นเรื่องของอาหารทะเลสดน่ากิน รวมถึงวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของโอซาก้า เป็นที่ตั้งของปราสาทโอซาก้าอันงดงาม มีสวนสนุกชื่อดังอย่าง Universal Studios Japan ย่านที่มีชื่อเสียงที่นักท่องเที่ยวนิยม อาทิ ย่านมินามิ นัมบะ และชินไซบาชิ ย่านคิตะ/อูเมดะ

3.ฮิโรชิม่า (Hiroshima/広島)

Cr: ima-colle.jp

ในอดีต ฮิโรชิม่า (Hiroshima/広島市) เป็นเมืองหนึ่งบนเกาะฮอนชูที่มีความเจริญรุ่งเรืองมีชัยภูมิที่มีลักษณะเป็นอ่าว ทั้งยังมีการออกแบบผังเมืองที่ดีมานานกว่า 100 ปี ก่อนจะถูกถล่มด้วยระเบิดปรมาณู ปัจจุบันกลับกลายเป็นเมืองที่มีความสวยงามและเต็มไปด้วยความทรงจำ และยังเป็นที่ตั้งของ 2 สถานที่สำคัญที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกอีกอาทิ ศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ (厳島神社), สะพานคินไตเคียว (錦帯橋) และยังมีอนุสรณ์สถานความทรงจำอย่าง A-bomb Dome（原爆ドーム）ด้วย เป็นอีกเสน่ห์ของเมืองที่ตระหง่านงดงามจากซากปรักหักพัง เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ วัด และศาลเจ้าที่สวยงาม อาหารขึ้นชื่อคือ ขนมใส่ไส้โมมิจิมันจุ ราเม็งสไตล์ฮิโรชิม่า โอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่า เป็นต้น

4.ฟุกุโอกะ (Fukuoka/福岡)

Cr: travel.gaijinpot.co
ฟุกุโอกะ (Fukuoka/福岡市) เมืองที่ใหญ่ของภูมิภาคคิวชูที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองท่าที่สำคัญของญี่ปุ่นมายาวนานหลายร้อยปี เรียกได้ว่าอาหารทะเลที่นี่ทั้งสดและอุดมสมบูรณ์ ความเจริญและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ของเมืองมีครบครันไม่ด้อยกว่าเมืองใหญ่อย่างโตเกียวและโอซาก้า มีบรรยากาศที่ดูสบาย ๆ ไม่อึดอัด ไม่เร่งรีบเท่า และยังเป็นจุดศูนย์กลางในการเดินทาไงปยังเมืองที่อยู่ข้างเคียงบนเกาะคิวชูที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย

5.เมืองโอะกะยะมะ (Okayama /岡山市 ) 

เมืองโอะกะยะมะ (Okayama /岡山市 )  ตั้งอยู่ทางใต้ของกรุงโตเกียวเป็นเมืองเอกของจังหวัดโอะกะยะมะ ตั้งอยู่ทางใต้ของกรุงโตเกียวจังหวัดนี้มีชื่อเสียงเกี่ยวกับผลไม้ มีผลไม้ให้ได้ชิมในทุกฤดูกาล ซึ่งมีรสชาติอร่อย คุณภาพดี ด้วยความที่ดินแดนแห่งนี้มีอากาศดี ทำให้โอะกะยะมะมีชื่อเล่นอีกหนึ่งชื่อก็คือ Land of Sunshine เนื่องจากอากาศอยู่ระหว่าง 20-30 องศา ไม่หนาวและไม่ร้อนจนเกินไป นอกจากอากาศดี ผลไม้อร่อยแล้ว ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอีกหลายที่ Okayama Korakuen Garden เป็นหนึ่งในสามสวนที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งได้สามดาวจาก "มิชลินกรีนไกด์" ราว 300 ปีก่อนไดเมียว (เจ้าผู้ครองแคว้น) ของย่านนี้ได้สร้างสวนญี่ปุ่นงดงามสมบูณ์แบบแห่งนี้ขึ้น Okayama Korakuen Garden สัญลักษณ์ของอำนาจ ซามุไร นับเป็นหนึ่งในสามสวนที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น เช่นเดียวกับ Kenroku-en [สวน] แห่ง Kanazawa City และ Kairakuen [สวน] แห่ง Mito City อนึ่งสวนรอบ Enyo-tei House ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยนี้ มีพื้นที่ประมาณ 13 เฮกเตอร์ ภายในมีเวทีละคร “”โน”” บ่อน้ำ เนินเขา ทิวต้นบ๊วย และไร่ชา มีสนามหญ้าขนาดใหญ่โล่งๆ ซึ่งไม่ค่อยพบในสวนญี่ปุ่นทั่วไป

ที่มา;https://chillchilljapan.com/interesting-cities-in-japan/

My Project

My project  (1)

"อาหารคลีน อกไก่พริกไทยดำ"

หลักการและเหตุผล

   เพื่อให้คนที่อยากลดความอ้วนได้ลดอย่างไม่อันตรายไม่ต้องพึ่งยาอาหารคลีนเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของคนอยากผอมเพราะนอกจากจะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพแล้วยังช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วยซึ่งถ้าเลือกทานอาหารคลีนในปริมาณที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายไปด้วย นอกจากจะช่วยลดน้ำหนักแล้ว ยังช่วยให้สุขภาพดี นอกจากนี้อาหารคลีนยังเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ ซึ่งเป็นสารที่พบมากในอาหารที่ไม่ผ่านการขัดสีโดยมีส่วนช่วยให้ระบบขับถ่ายสามารถทำงานได้ดีสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งและลำไส้และช่วยให้นอนหลับง่ายอีกด้วย

จุดประสงค์

เพื่อลดความอ้วน

เพื่อการขับถ่ายที่คล่อง

ส่วนผสม

1. ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม 1 ช้อนชา

2. พริกไทยดำบด 1/2 ช้อนชา

3. อกไก่ 1 ชิ้น

ขั้นตอน

1. หมักอกไก่ด้วยซีอิ๊วขาวและพริกไทยดำประมาณ 15-30 นาที 

2. จากนั้นนำไปย่างบนกระทะเทฟลอนด้วยไฟอ่อนจนสุก (หรือหากใครมีเตาอบให้ย่างบนกระทะแค่ผิวข้างนอกเหลืองแล้วนำไปอบต่อที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ประมาณ 15-20 นาที) 

ผลที่ได้รับ

หุ่นผอมลง

คลับถ่ายคล่อง

สุขภาพดี

5 อาหารจานเด็ดในประเทศเยอรมันที่ไม่ควรพลาด!

5 อาหารจานเด็ดในประเทศเยอรมัน
1. Schweinshaxe

เห็นชื่อภาษาเยอรมันแล้วสะดุ้งโหยงเพราะดูออกเสียงยากเหลือเกินจะสั่งถูกไหมเนี่ย แต่จริงๆ มันก็คือขาหมูเยอรมันที่เราคุ้นเคยกันดีนั่นเอง สาวๆ บางคนเห็นชื่อเมนูนี้แล้วอาจจะส่ายหน้า ไม่ไหวมั้งคะหนูไดเอทอยู่ เอาน่า...ครั้งเดียวไม่อ้วนหรอก ได้มาเรียนต่อถึงดินแดนต้นตำรับทั้งที ถ้าไม่ลองอาหารประจำชาติที่โด่งดังขนาดนี้แล้วจะกลับไปโม้ให้ที่บ้านฟังได้ยังไง แนะนำว่าถ้าจะให้เด็ดสุด ควรไปลองที่งาน Oktoberfest เทศกาลประจำปียอดนิยมของเมืองมิวนิก ซึ่งมักจัดในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคมของทุกปี ได้จิบเบียร์เย็นๆ แกล้มขาหมู เคล้าบรรยากาศเมืองเก่าสุดคลาสสิกของมิวนิก รับรองว่าแฮปปี้สุดๆ จนลืมนับแคลอรี่ไปเลยจ้า

2. Schnitzel

ชะ-นิท-เซ่ล คืออีกหนึ่งเมนูยอดฮิตที่พบเห็นได้ทั่วไปตามร้านอาหารในเยอรมนี จะปรุงจากเนื้ออะไรก็ได้ หมู ไก่ ลูกวัว แกะ ฯลฯ แต่นิยมกันมากจะเป็นเนื้อหมูกับเนื้อลูกวัวค่ะ การปรุงก็ไม่มีอะไรยุ่งยากแค่นำทุบเป็นแผ่นบางๆ แล้วนำไปชุบแป้งอเนกประสงค์ ชุบไข่ และชุบเกล็ดขนมปัง จากนั้นจึงทอดให้สุกสีเหลืองสวย เสิร์ฟพร้อมสลัด ผักย่าง มันอบ มันทอด มันบด หรือจะเป็นข้าว มักกะโรนี สปาเก็ตตี้ก็ยังได้ บางร้านจะมีซอสฮอลแลนเดซหรือซอสเห็ดหอมๆ ราดมาให้ด้วยค่ะ

3. Currywurst

เมืองไส้กรอกคือฉายาของเยอรมนีที่เรามักได้ยินกันบ่อยๆ และแน่นอนว่าไส้กรอกของเขาก็อร่อยๆ จริงๆ ซะด้วย  โดยเฉพาะเคอ-รี่-วัวสต์ เมนูขึ้นชื่อของเมืองเบอร์ลิน บางร้านจะราดซอสมะเขือเทศชุ่มๆ แล้วโรยด้วยผงกะหรี่ แต่บางร้านก็จะปรุงซอสผงกะหรี่โฮมเมดขึ้นมาโดยเฉพาะ อันนี้ไม่สามารถฟันธงได้ค่ะว่าแบบไหนอร่อยกว่ากันขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน แต่ถ้าใครไม่นิยมกลิ่นเครื่องเทศหรือไม่ชอบกินซอสชุ่มๆ ที่เยอรมนีก็ยังมีไส้กรอกอร่อยๆ อีกหลายชนิดให้เลือกลองลิ้มชิมรสนะคะ เช่น ไส้กรอกเนื้อผสมเลือด (Brutwurst) ไส้กรอกสีขาว (Weisswurst) อาหารประจำถิ่นของแคว้นบาวาเรียน และอื่นๆ อีกมากมาย

4. Doner Kebab

จริงๆ แล้วเคบับเป็นอาหารประจำชาติของชาวตุรกีค่ะ แต่ถ้าใครเคยไปเยอรมนีก็จะเห็นว่ามีร้านขายเคบับอยู่ทั่วทุกหัวมุมเมือง เนื่องจากมีชาวตุรกีอพยพมาอยู่ในประเทศเยอรมนีเป็นจำนวนมาก เคบับเป็นอาหารจานด่วนที่ราคาถูกและมีสารอาหารครบถ้วน เพราะมีทั้งแป้ง เนื้อสัตว์ ผัก ไขมัน ครบองค์ประกอบ จึงเป็นทางเลือกที่ดีทีเดียวสำหรับนักศึกษางบน้อยอย่างเราๆ 

5. Sauerbraten

อาหารจากนี้ปรุงด้วยวิธีการที่เรียกว่า Pot Roast คือการนำเนื้อชิ้นใหญ่มาอบในหม้อและเติมน้ำซุปลงไปเล็กน้อย ใช้ความร้อนต่ำ ปิดฝาให้แน่น เพื่อให้เนื้อนุ่มละลายในปากและมีรสชาติของซอสเข้มข้นแทรกซึมอยู่ทั่ว เนื้อที่นิยมนำมาปรุงคือเนื้อวัว แต่บางท้องถิ่นก็อาจใช้เนื้ออื่นๆ เช่น หมู แกะ กวาง หรือแม้กระทั่งม้า คนเยอรมันมักนิยมกิน เซา-เออ-บรา-เตอ ในฤดูหนาว เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย โดยเสิร์ฟพร้อมกับผักลวก หรือ อาหารจำพวกแป้ง เช่น เส้นชเปทซ์เลอ (Spätzle) 

สุดท้ายนี้ก็อยากฝากให้ทุกคนที่ไปเยอรมันไม่ควรพลาด!!อาหารพวกนี้เลยนะคะ 

ที่มา: https://www.hotcourses.in.th/study-in-germany/once-you-arrive/must-try-food-in-germany/

GESCHENK IM DEUTSCHLAND

Geschenk im DEUTschland

             หากพูดถึงสินค้าจากประเทศเยอรมนี สิ่งแรกที่ทุกคนมักจะนึกถึงก็คือคุณภาพ ความทนทาน และกลไกที่ทันสมัยใช่ไหมคะ?
ตัวอย่างที่เราเห็นกันอยู่แทบทุกวันคงจะหนีไม่พ้นรถยนต์ ที่วิ่งอยู่บนท้องถนนในประเทศไทยนี่แหละค่ะ ไม่ว่าจะเป็นรถยี่ห้อ BMW, Mercedez Benz, Porsche และ Volkswagen เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่เป็นรถสัญชาติเยอรมันทั้งนั้นเลยค่ะ
        แต่ถ้าจะให้นักท่องเที่ยวไทยไปสั่งซื้อรถในขณะที่ไปเที่ยวก็คงจะเป็นเรื่องยากเกินไป ผมจึงอยากจะมาแนะนำของดีเมืองเยอรมัน ที่สามารถนำกลับประเทศไทยได้ง่ายๆดังนี้ค่ะ

1. Adidas (อาดิดาส)

เมื่อพูดถึงเสื้อผ้าและรองเท้ากีฬา เชื่อว่าหลายคนจะต้องรู้จักรองเท้ายี่ห้อ Adidas เพราะเป็นรองเท้าที่ทั้งใส่สบาย และยังสวยงามอีกด้วย โดยเฉพาะรุ่น Stan Smithsซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยมมากในหมู่ fashion blogger ทั่วโลกค่ะเจ้ารองเท้ายี่ห้อนี้ ถือกำเนิดขึ้นที่เมือง Herzogenaurach แคว้น Bavaria ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเยอรมนี โดย Adolf Dassler เป็นผู้จดทะเบียนการค้า หลังจากที่ทะเลาะแย่งสมบัติกับพี่ชาย Rudolf Dassler ซึ่งแยกตัวไปเปิดอีกบริษัทเพื่อมาแข่งกับน้องชาย และบริษัทนั้นก็คือ Puma นั่นเองค่ะ

2. Rimowa (ริโมว่า)
จุดเด่นของ Rimowa คือ ความเบา และความทนทาน ซึ่งวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิตนั่นก็คือ อะลูมิเนียม และ โพลีคาร์บอเนต ที่ช่วยให้กระเป๋ามีน้ำหนักเบา แต่ยังคงความแข็งแรงอย่างมาก จึงเป็นที่ใฝ่ฝันของนักเดินทางหลายคน แต่ติดปัญหาอยู่ที่ราคานี่แหละค่ะ ใบนึงอย่างถูกๆก็เป็นหมื่นเลย แต่ถ้าคุณซื้อกระเป๋า Rimowa ที่ประเทศเยอรมนี ก็จะได้ราคาที่ถูกกว่ามาก และมีแบบให้เลือกเยอะกว่า แถมยังทำคืนภาษีสำหรับนักท่องเที่ยว

3. Jack Wolfskin (แจ็ค วูฟสกิน)
เสื้อผ้ากันหนาว และกิจกรรม Outdoor ที่คุณภาพดีสมราคา และยังออกแบบทันสมัยสวยงาม มีสีสันสดใส และไม่เทอะทะอีกด้วย เสื้อผ้าของ Jack Wolfskin จึงเป็นที่นิยมมากในหมู่คนหนุ่มสาวค่ะ
บางคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมต้องซื้อเสื้อกันหนาวต่างประเทศด้วย ซื้อของไทยก็ได้ แบบไหนก็ใส่กันหนาวได้เหมือนกัน
ความจริงแล้วไม่เหมือนกันเท่าไหร่ครับ เสื้อกันหนาวที่ขายในเมืองไทยส่วนใหญ่ จะเป็นผ้าที่กันหนาวได้ระดับนึงเท่านั้น ประมาณแอร์ที่บ้าน 23ºC แบบนี้เอาอยู่ค่ะ แต่จะให้ใส่ไปขึ้นเขาที่อุณหภูมิติดลบเห็นทีคงไม่ไหว สำหรับคนที่จะไปเที่ยวแนะนำให้เลือกเสื้อกันหนาวที่เหมาะกับอากาศหนาวแบบยุโรปจริงๆดีกว่า รับรองว่าคุณจะไม่ป่วยระหว่างทริปแน่นอนค่ะ

นอกจากนี้ เสื้อกันหนาวที่เยอรมนียังมีให้เลือกเยอะกว่า และมีแบบเฉพาะเจาะจงสำหรับกิจกรรมอีกด้วยครับ เช่น เสื้อผ้ากันหนาวแบบอยู่ในเมืองที่เน้นความสวยงาม เหมาะกับการใส่ทำงาน หรือเดินเที่ยวเล่น ไปจนถึงเสื้อผ้ากันหนาวสำหรับเที่ยวต่างจังหวัด เหมาะสำหรับกันลมแรงๆ เอาไว้ใส่ขี่จักยาน หรือ เล่นสกี เป็นต้น เสื้อกันหนาวเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับอุณหภูมิ และการใช้งานของกิจกรรมนั้นๆ จะแตกต่างกันที่การออกแบบ และวัตถุดิบที่นำมาใช้ทำเสื้อผ้าเท่านั้นเองค่ะ

4. Zwiling (สวิลลิง)
สำหรับผู้ที่รักการทำอาหาร คงไม่มีใครไม่รู้จักเครื่องครัว แบรนด์ Zwilling ซึ่งแปลว่า “แผด” มีดยี่ห้อนี้มีชื่อเสียงเป็นพิเศษ เพราะทั้งคม และสวยงาม ถึงราคาจะสูงสักหน่อย แต่รับรองว่าทนทานแน่นอนครับ สามารถหาซื้อได้ที่แผนกเครื่องครัวในห้างชั้นนำทั่วไป ในประเทศเยอรมนี ถ้าโชคดีอาจจะไปเจอช่วงลดราคาด้วยค่ะ

5. Hugo Boss (ฮูโก บอส)
แบรด์เสื้อผ้าคุณภาพสุดเนี๊ยบของเยอรมนี ที่เมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 Hugo Bossได้เคยออกแบบเครื่องแบบให้แก่กองทัพนาซีมาก่อน ด้วยฝีมือการตัดเย็บที่ละเอียดเมื่อสงครามจบลงบริษัท Hugo Boss จึงก็หันมาออกแบบเสื้อผ้าใส่ทำงานแทน ถึงทุกวันนี้แบรนด์ Hugo Buss ก็ยังคงเป็นแบรนด์ชั้นนำในด้านเสื้อผ้าใส่ทำงาน สำหรับทั้งหญิง และชาย ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก และได้เพิ่มเสื้อผ้าใส่ลำลอง กับน้ำหอมเข้ามาด้วยค่ะ

ในปีนี้ถ้าคุณเป็นแฟนฟุตบอลคุณจะเห็นทีมชาติเยอรมันใส่ชุดสูทใน UEA EURO 2016 แน่นอนค่ะ

6. Leica (ไลก้า)
กล้อง Leica เป็นกล้องคุณภาพสูงที่มีน้ำหนักเบา เกิดขึ้นจากการเป็นกล้อง compact ที่เอาไว้ถ่ายวิว เน้นการพกพาและใช้งานง่าย เป็นที่นิยมของช่างภาพแนววิถีชีวิต street photography และช่างภาพสงครามชื่อก้องโลกหลายคน เช่น Larry Burrowsและ Henri Cartier-Bresson เป็นต้นค่ะ

นอกจากนี้กล้อง Leica ยังเป็นที่ต้องการของนักสะสมอีกด้วย อย่างกล้อง Leica ปี 1923 ที่แสนจะหายาก ถูกประมูลสูงถึง 2.6 ล้านยูโร ที่กรุงเวียนนา Leica จึงถือว่าเป็นกล้องที่ควรค่าแก่การลงทุนจริงๆค่ะ

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถลดภาษี (Tax Refund) ได้ถึง 19% เมื่อซื้อของ 25 ยูโร ขึ้นไปครับ และแนะนำให้คืนเงินเข้าในบัตรเครดิตดีกว่า เพราะถ้าคืนเป็นเงินสดจะถูกชาร์จค่าบริการค่ะ

สำหรับใครที่กำลังจะไปเที่ยวเยอรมนี ก็คงจะทราบแล้วนะครับว่าควรจะซื้ออะไรบ้าง ขอให้ทุกท่านสนุกกับการท่องเที่ยวนะคะ

กระเป๋าเดินทางสุดฮอตจากประเทศเยอรมนี ที่ขนาดซุปตาร์อย่าง คุณชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต ยังใช้ยกเช็ตเลยค่ะ

ทำผมยังไงให้เข้ากับรูปหน้า?

ทำผมยังไงให้เข้ากับรูปหน้า?

          สวัสดีค่ะ สาวๆหลายคนคงเคยพบปัญหาว่าจะทำผมทรงไหนให้เข้ากับรูปหน้า บางทีทำทรงนี้ไปแล้วรู้สึกว่าไม่เข้ากับรูปหน้า จะว่าไปทรงผมก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ช่วยให้บุคลิกของเราดูดีขึ้นมา แค่เลือกทรงผมผิดชีวิตอาจจะเปลี่ยนได้เลยนะ วันนี้เราจึงมีทริคดีๆในการเลือกทรงผมให้เข้ากับใบหน้ามาอ่านกันเลยค่ะ

1. ใบหน้ารูปไข่ : เป็นรูปหน้าที่บอกได้คำเดียวว่าโชคดีสุดๆ สามารถตัดผมได้หลากหลายทรงมาก ไม่ว่าจะสั้นหรือยาวก็ได้หมด แต่ทรงที่จะทำให้สาวใบหน้ารูปไข่เกิดที่สุด คงหนีไม่พ้นการสไลด์แบบไล่ระดับ เช่น การสไลด์ผมตั้งแต่ระดับโหน่กแก้มลงมาถึงช่วงคาง เพราะทรงผมจะขลับกับความโค้งมนของใบหน้า

                                                                                                 
2. ใบหน้ารูปกลม :  สาวหน้ากลมมักจะมากับคางที่สั้น และใบหน้าที่กว้างพอตัว ทรงผมที่เหมาะควรเป็นทรงผมที่เล่นระดับช่วงด้านบน (คล้ายการตัดผมให้ ศรีษะดูทุย)  หรือจะปล่อยให้ยาวตรงแล้วใช้ผมเหน็บข้างหูก็จะทำให้ใบหน้าดูเรียวยาวมากยิ่งขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการรวมผมตึง และดัดผมเป็นลอนให้พองฟูเพราะจะทำให้รูปหน้าดูกลมยิ่งขึ้น

3.    ใบหน้าเหลี่ยม :  สาวรูปหน้าเหลี่ยมมักจะมีหน้าผากที่กว้างและช่วงคางปาดสาวที่มีลักษณะหน้าผากกว้าง โหนกแก้มเยอะ หรือคางปาด สิ่งที่ง่ายที่สุดที่จะช่วงปกปิดรูปหน้าให้ดูเรียวมากขึ้นคือการแสกข้าง รวมถึงการสไลด์ไล่ระดับตามกรอบหน้าด้านข้าง เพื่อปกปิดขากรรไกร หรือจะดัดปลายผมให้เป็นลอนอ่อนๆ ก็จะช่วยให้รูปหน้าดูโค้งมนเข้ารูปมากยิ่งขึ้น ส่วนผมสั้นควรสไลด์ไล่ระดับแบบปลายแหลมจะช่วยให้รูปหน้าดูเรียวขึ้น  หลีกเลี่ยงการตัดผมบ๊อบ หรือการไว้ผมสั้นระดับคางเพราะจะยิ่งเน้นบริเวณกรามให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

4.       ใบหน้ายาว :  หรือใบหน้ารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า :  เป็นรูปหน้าที่ผสมผสานระหว่างรียาวและสี่เหลี่ยมไว้ด้วยกัน สาวๆ สามารถทำผมดัดลอนในแบบต่างๆ ได้ เพราะผมลอนจะช่วยให้ใบหน้าที่ยาวดูสมส่วนและกว้างมากยิ่งขึ้น การตัดผมหน้าม้าและการแสกข้างก็สามารถช่วยลดความยาวของใบหน้าได้เช่นกัน  ควรหลีกเลี่ยงการตัดผมสั้นมากๆ  การยีหรือตีโป่งด้านหน้าเพราะจะเน้นให้รูปหน้ายาวมากขึ้น

5.       ใบหน้ารูปหัวใจ : จะมีหน้าผากและช่วงแก้มที่กว้างช่วงคางเล็กและแคบ การตัดผมหน้าม้า หรือการสไลด์สั้นความยาวประมาณบ่า หรือการดัดลอนเป็นคลื่นก็จะช่วยพรางตาไม่ให้คางดูแหลมเกินไป และจะช่วยให้ใบหน้าดูหวานมากขึ้น  

                                           

6.       ใบหน้ารูปเพชร : รูปหน้าแบบดีจะดูยาว แต่โหนกแก้มค่อนข้างกว้างและหน้าผากแคบ สาวๆ ควรหาทรงผมที่ช่วยพรางโหนกแก้มได้เช่น การซอยสไลด์หรือการปัดข้าง จะช่วยเพิ่มน้ำหนักช่วงหน้าผากให้ดูสมดุลกับใบหน้ามากยิ่งขึ้น  พยามอย่าเซ็ทผมให้ชี้หรือบานออกด้านข้าง

     

7.       ใบหน้ารูปสามเหลี่ยม หรือลูกแพร : ข้อด้วยอยู่ตรงหน้าผากแคบควรซอยหรือสไลด์ผมให้บางและไว้ผมหน้าม้า

                                       

และสุดท้ายนี้หวังว่าทุกๆคนจะลองนำทริคดีๆนี้ไปลองทำกันดูนะคะ

ที่มา:   https://spiceee.net/th/articles/7560